ผลสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐฯ

บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นประเด็นน่ากังวลทางด้านสาธารณสุข หลังจากมีข่าวว่ามีผู้ล้มป่วยในสหรัฐฯ โดยบางงานวิจัยที่ระบุว่า ไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้ามีขนาดอนุภาคที่เล็กกว่าบุหรี่ธรรมดา ทำให้สามารถถูกสูดเข้าไปในปอดส่วนลึกได้มากกว่า อนุภาคที่เล็กนี้จะจับเข้ากับเนื้อเยื่อปอดและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว และยากที่กลไกธรรมชาติของร่างกายจะขับออกมาได้  จึงทำให้กลายเป็นวิกฤตทางการสาธารณสุขที่ต้องมาตามแก้ไขภายหลัง และนั่นเอง ส่งผลให้ทางภาครัฐเตรียมหามาตรการในการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด

EVALI คืออะไร

ขณะนี้ได้มีการบัญญัติศัพท์ใหม่ที่ชื่อว่า ‘EVALI’ ซึ่งมาจาก E-cigarette or Vapingproduct use-a Associated Lung Injury” ซึ่งเป็นศัพท์บัญญัติใหม่สำหรับแพทย์จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ของสหรัฐฯ ซึ่งมีความหมายว่า “อาการปอดบาดเจ็บที่สัมพันธ์กับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการสูบไอ

ข้อมูลการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีผู้เสียชีวิต 52 รายจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก ในสหรัฐฯซึ่งได้รับการยืนยันจาก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ใน 26 รัฐและ เขตโคลัมเบีย (วอชิงตัน) และมีผู้บาดเจ็บ 2,409 รายที่ได้รับการยืนยันว่าเกิดการบาดเจ็บที่ปอดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าราคาถูก 

ข้อมูลผู้ป่วย EVALI ที่ทำการรักษาในโรงพยาบาลรายงานถึง CDC (ณ วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2562) :

• 67% เป็นผู้ชาย (ในหมู่ผู้ป่วย 2,155 คนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเพศ)
• 78% มีอายุต่ำกว่า 35 ปีอายุ มัธยมอายุ 24 ปีและช่วงอายุ 13-77 ปี (ในกลุ่มผู้ป่วย 2,159 รายที่มีข้อมูลเรื่องอายุ) 

ตามหมวดหมู่กลุ่มอายุ

• 16% ของผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 18 ปี
• 38% ของผู้ป่วยอายุ 18 ถึง 24 ปี
• 24% ของผู้ป่วยอายุ 25 ถึง 34 ปี
• 23% ของผู้ป่วยมีอายุ 35 ปีขึ้นไป

ในผู้ป่วยในโรงพยาบาล 1,782 ราย ที่มีข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับสารที่ใช้ในบุหรี่ไฟฟ้าหรือสูบบุหรี่ไฟฟ้าในช่วง 3 เดือนก่อนที่เริ่มจะมีอาการ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2562)

• 80% รายงานโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วย THC; 35% รายงานการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเฉพาะสาร THC
• 54% รายงานว่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนิโคติน, 13% รายงานการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเฉพาะสารนิโคติน
• 12% รายงานว่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ cannabidiol (CBD), 1% รายงานการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเฉพาะ cannabidiol (CBD)

• 40% รายงานว่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร THC และมีส่วนผสมของนิโคติน
• 5% รายงานว่าไม่มีการใช้ THC, CBD หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนิโคติน

จะเห็นว่า จากผลสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูกของนักเรียนในสหรัฐฯ พบนักเรียนมัธยมนิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าบุหรี่ปกติ ที่สำคัญบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูกเป็นประตูนำไปสู่การเสพติดบุหรี่มวนหรือสารเสพติดอื่นๆ ได้เช่นกัน